Online Banking
ลูกค้าบุคคล
- บัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง
- บัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง
- บัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง
- โมบายแบงก์กิ้ง
- โมบายแบงก์กิ้ง
- โมบายแบงก์กิ้ง
- บัวหลวง ไอฟันด์
ธนาคารกรุงเทพ พร้อมเปิดหลักสูตร AEC Business Leader ปี 3 ติดปีกนักธุรกิจไทยบุกตลาดอาเซียน
5 ธันวาคม 2560
นายไชยฤทธิ์ อนุชิตวรวงศ์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และผู้อำนวยการหลักสูตรอบรมนักธุรกิจแห่งอาเซียน (AEC Business Leader) เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมเปิดหลักสูตร AEC Business Leader ปีที่ 3 ในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม 2561 ภายใต้แนวคิด ‘Go ASEAN Together’ มุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพนักธุรกิจรุ่นใหม่ให้สามารถก้าวสู่การเป็นนักธุรกิจตัวจริงของภูมิภาคอาเซียน ด้วยเนื้อหาที่เข้มข้น ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของธุรกิจและการลงทุนในปัจจุบันที่มุ่งสู่ดิจิทัลมากขึ้น รวมถึงการถ่ายทอดประสบการณ์ในการทำธุรกิจและกลยุทธ์เจาะตลาดอาเซียนที่ประสบความสำเร็จจากวิทยากรชั้นนำของอาเซียน
นอกจากนี้ ผู้ร่วมอบรม AEC Business Leader ปีที่ 3 จะได้ร่วมเดินทางศึกษาดูงานโดยลงพื้นที่จริงในประเทศเวียดนาม และเมียนมา ซึ่งได้รับเกียรติจากนักธุรกิจชั้นนำของทั้ง 2 ประเทศที่จะช่วยแนะนำข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการเปิดประตูธุรกิจสู่อาเซียน และหลังการศึกษาดูงาน ผู้ร่วมอบรมจะได้รับมอบหมายให้สร้างสรรค์แผนธุรกิจในประเทศอาเซียน โดยนำเนื้อหาตลอดหลักสูตรรวมถึงการศึกษาดูงาน มาประมวลและประยุกต์เพื่อจัดทำแผนธุรกิจ รวมถึงการจัดประกวดเพื่อค้นหาแผนธุรกิจยอดเยี่ยมโดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของธนาคารและบุคคลภายนอกร่วมให้เกียรติพิจารณา
นายไชยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า จากความสำเร็จของการดำเนินหลักสูตรที่ผ่านมา 2 รุ่น ทำให้ธนาคารมั่นใจว่านักธุรกิจไทยไม่น้อย ทั้งระดับกลางและระดับ SMEs ต้องการที่จะขยายธุรกิจไปยังประเทศอาเซียน แต่ยังไม่เข้าใจตลาดอาเซียนได้ลึกซึ้ง และยังขาดที่ปรึกษาที่จะมาให้คำแนะนำเรื่องการค้าการลงทุน โดยธนาคารกรุงเทพพร้อมจะให้ความช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าว
“เราพบว่าธุรกิจหรือสินค้าของบริษัทที่เข้าร่วมในการอบรมหลักสูตร AEC Business Leader ใน 2 รุ่นที่ผ่านมานั้น มีคุณภาพสูงและสามารถแข่งขันในตลาดอาเซียนได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่ยังขาดคือ ที่ปรึกษาและพี่เลี้ยงผู้มีประสบการณ์การค้าธุรกิจในอาเซียนที่จะช่วยสนับสนุนและให้คำแนะนำ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจไทยต่อยอดไปสู่ตลาดการค้าในอาเซียนได้อย่างมีศักยภาพ ดังนั้น หลักสูตรในปีที่ 3 จึงเพิ่มเนื้อหาส่วนนี้เข้ามาเพื่อให้มีความครบถ้วนยิ่งขึ้น รวมถึงการมีโจทย์ให้ผู้ร่วมอบรมได้จัดทำแผนธุรกิจขึ้นมา เพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่ลึกยิ่งขึ้น และจะช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ของหลักสูตรและสร้าง ‘ผู้บริหารตัวจริงแห่งภูมิภาคอาเซียน’ ได้ตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร” นายไชยฤทธิ์กล่าว
ทั้งนี้ AEC Business Leader คือหลักสูตรอบรมผู้บริหารระดับสูงแบบเข้มข้นที่ธนาคารกรุงเทพจัดขึ้น เพื่อตอบโจทย์การสนับสนุนให้ธุรกิจไทยสามารถเติบโตสู่ตลาดในภูมิภาคอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยผสมผสานองค์ความรู้ของธนาคาร และประสบการณ์จากนักธุรกิจชั้นนำในภูมิภาคอาเซียนที่ประสบความสำเร็จ
ผู้สนใจหลักสูตร AEC Business leader รุ่นที่ 3 สามารถสมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ - 20 ธันวาคม 2560 และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ของธนาคารกรุงเทพ หรือติดต่อศูนย์ AEC Connect โทรศัพท์ 0-2230-2758 และ 0-2230-1507 หรืออีเมล AECconnect@bbl.co.th
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่
นโยบายการใช้คุกกี้
ตั้งค่าคุกกี้
ธนาคารใช้งานคุกกี้ประเภทจำเป็นถาวรเพื่อให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานเว็บไซต์ของธนาคารได้อย่างปลอดภัยและคุกกี้ประเภทการทำงานเพื่ออำนวยความสะดวกเมื่อท่านกลับเข้ามาใช้งานเว็บไซต์อีกครั้ง นอกจากนี้ ธนาคารยังใช้คุกกี้ประเภทอื่น ได้แก่ คุกกี้ประเภทการวิเคราะห์ และคุกกี้ประเภทการโฆษณา ซึ่งหากท่านปิดการใช้งานอาจกระทบกับการใช้งานเว็บไซต์ได้ ดังนี้
ธนาคารใช้คุกกี้ประเภทนี้เพื่อวิเคราะห์หรือวัดผลการทำงานของเว็บไซต์ และเข้าใจถึงความสนใจของท่าน เพื่อนำไปบริหารจัดการ ปรับปรุง และพัฒนาเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้ อาจทำให้ธนาคารไม่ได้ปรับปรุงหรือพัฒนาเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับสถิติการใช้งานเว็บไซต์ที่แท้จริง
ธนาคารใช้คุกกี้ประเภทนี้เพื่อนำเสนอข้อมูลหรือโฆษณาให้เหมาะสมตรงตามความสนใจและความชื่นชอบของท่าน การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้ อาจทำให้ท่านไม่ได้รับข้อมูลที่เหมาะสมหรือตรงกับความต้องการของท่าน
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (“ธนาคาร”) ให้ความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ธนาคารจึงจัดทำหนังสือนี้ เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
1. ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารจะนำมาเก็บรวบรวมและใช้ ประกอบด้วย
1.1.ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนท่านได้ ไม่ว่าทางตรง หรือ ทางอ้อม
(1) ข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด ส่วนสูง น้ำหนัก ข้อมูลบนบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทาง เลขประจำตัวพนักงาน ข้อมูลบนบัตรประกันสังคม เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ข้อมูลบนทะเบียนบ้าน รูปถ่ายใบหน้า สัญชาติ ลายมือชื่อ ข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าออกประเทศ ประวัติการศึกษา ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน สถานภาพ สมาชิกภาพ ใบอนุญาตต่าง ๆ เช่น ใบอนุญาตทำงาน ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ใบอนุญาตในการประกอบอาชีพ
(2) ข้อมูลเกี่ยวกับการเงินและการทำธุรกรรม ได้แก่ รายได้ หมายเลขบัญชีเงินฝากที่ใช้สำหรับรับค่าจ้าง หมายเลขบัตรเครดิต ข้อมูลเกี่ยวกับการทำประกันผ่านธนาคาร ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สิน ความสามารถในการลงทุน ข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำหรือถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด การถูกดำเนินคดี การถูกบังคับคดี ข้อมูลเกี่ยวกับการขอใช้สินเชื่อสวัสดิการต่าง ๆ การวิเคราะห์ความเสี่ยงและความสามารถในการชำระหนี้ ข้อมูลการชำระหนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สิน ข้อมูลเกี่ยวกับการหักบัญชีสำหรับรับค่าจ้างเพื่อชำระหนี้ตามคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลหรือหน่วยงานของรัฐ ข้อมูลเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกหรือการถือหน่วยลงทุนหรือการดำเนินการใด ๆ กับกองทุน สมาคม องค์กร ชมรม มูลนิธิ
(3) ข้อมูลติดต่อ ได้แก่ ที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail Address) หมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลผู้ติดต่อที่ท่านให้ไว้กับธนาคาร ชื่อหรือบัญชีสำหรับการใช้งานผ่านแอปพลิเคชันหรือช่องทางดิจิทัล เช่น ไลน์ กูเกิล เฟซบุ๊ก ยูทูป ทวิตเตอร์ วอทส์-แอป หรือวีแชท
(4) ข้อมูลการปฏิบัติงานและการใช้งาน ได้แก่ ชื่อหรือรหัสสำหรับการใช้บริการ (Username) รหัสผ่านสำหรับการใช้บริการ (Password) ข้อมูลเกี่ยวกับการค้นหา สถิติการเข้าดู ระยะเวลาการใช้งานผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แพลตฟอร์ม แอปพลิเคชัน เวลาที่คลิกครั้งสุดท้าย (Timestamp of last click) รายการโปรด ข้อมูลถามตอบ ข้อมูลจราจรคอมพิวเตอร์ (Log File) ข้อมูลการสื่อสาร ข้อมูลจากการติดต่อผ่านโทรศัพท์ ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ สื่อสังคมออนไลน์ ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด (CCTV) ทั้งในรูปแบบ เทปบันทึกเสียงหรือบันทึกการทำรายการ ภาพถ่ายหรือภาพเคลื่อนไหว
(5) ข้อมูลทางเทคนิค ได้แก่ หมายเลขอินเทอร์เน็ตโพรโทคอล (IP Address) ล็อก (Log)รหัสอุปกรณ์ (Device ID) ประเภทและเวอร์ชันของปลั๊กอิน เบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์มระบบอินเทอร์เน็ตหรือเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ข้อมูลการตั้งค่าในอุปกรณ์ และข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆ จากการใช้งานบนแพลตฟอร์ม แอปพลิเคชันและระบบปฏิบัติการของธนาคาร
(6) ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรม ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับความสนใจ หรือความชื่นชอบส่วนตัว ลักษณะการใช้บริการ และข้อมูลที่ได้รับจากการใช้บริการ
1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหว ซึ่งธนาคารต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนจึงจะเก็บรวบรวมได้ ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ ศาสนา ประวัติอาชญากรรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลประกาศกำหนด
2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน